วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เคยรู้ไหม หมาไฟ Firefox ของเราไม่ใช่หมา ...

มันคือ หมีแพนด้าแดง


ชื่อ ของไฟร์ฟอกซ์นั้น หลายๆคนอาจจะแปลกันตรงตัวเลยว่า fire = ไฟ fox = หมาจิ้งจอก พอเอามารวมกันก็คือ จิ้งจอกเพลิง แต่ความเป็นจริงแล้วนั้นทางมูลนิธิ Mozilla นั้นได้ให้ความหมายของไฟร์ฟอกซ์ว่า แพนด้าแดง

แพนด้าแดงนั้น มีในภาษาจีนเขียนได้ 2 แบบ แบบแรกคือ 小熊貓 (อ่านว่า เสี่ยว โสวง เหมา) แปลว่า หมีแพนด้าน้อย และอีกแบบหนึ่งก็คือ 火狐 (อ่านว่า ฮัว ฮู) ถ้าแปลตามตัวอักษรเลยก็แปลว่าจิ้งจอกเพลิง แต่ฮัวฮู คนจีนเขาจะหมายถึง จิ้งจอกแดง หรือ แพนด้าแดง ซึ่งในที่นี้ก็หมายถึงแพนด้าแดงนั้นแหละครับ ชื่อของตัวโปรแกรมในเวอร์ชั่นภาษาจีนนั้นเขาจะใช้คำว่า 火狐 นี้แหละครับเป็นชื่อโปรแกรมมอซิล่าไฟร์ฟอกซ์ และนี้คือความหมายที่แท้จริงของไฟร์ฟอกซ์ที่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็น จิ้งจอกเพลิง

เราว่ากันด้วยชื่อไปแล้วก็มาเอาเรื่องสัญลักษณ์(logo) ของไฟร์ฟอกซ์กันดีกว่า ว่ามีที่มาเป็นอย่างไร



ใน เดือนตุลา ปี 2546 นาย Steven Garrity(หนึ่งในทีมงาน Silverorange) ได้เขียนบทความเกี่ยวกับเอกลักษณ์ทางภาพ(visual identity)ของมูลนิธิ Mozilla ที่เขาคิดว่าทาง Mozilla นั้นกำลังหลงทางอยู่ ซึ่งบทความนั้นก็เป็นที่นิยมมากจนเกิดปรากฏการณ์slashdotted

หลังจาก นั้นไม่นานนัก นาย Steven Garrity ก็ถูกชักชวนจากนาย Bart Decrem ให้มาร่วมงานกับมูลนิธิ Mozilla เพื่อเป็นหัวหน้าทีมในการสร้างสัญลักษณ์ของไฟร์ฟอกซ์แทนที่ไฟร์เบิร์ดที่ ต้องเลิกใช้ไป(หาอ่านได้จากเรื่องที่แล้ว) และนาย Steven Garrity ก็ได้ชวนนาย Jon Hicks เข้ามาร่วมทีมอีกคน(ต่อไปจะเรียก Jon Hicks ว่า ฮิคส์ เพื่อความกระชับ)

งานนี้ฮิคส์บอกว่ายากพอตัว เพราะมีข้อจำกัดทางด้านเวลา(งานต้องได้ภายในวันที่ 2 มกราคม 2547) แถมภาพของไฟร์ฟอกซ์จริงๆนั้นต้องเป็นแพนด้าแดง แต่เจ้าตัวแพนด้าแดงเนี่ย ไม่ได้ทำให้เกิดภาพหรือสื่ออะไรมากเสียเท่าไหร่ ยิ่งกว่านั้นแพนด้าแดงก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางด้วย เพราะฉะนั้นงานในตอนแรกของฮิคส์ก็ได้ทำออกมาตามใจตัวเอง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพหมาจิ้งจอกที่เขียนพู่กันแบบญี่ปุ่น (หรือจะเรียกว่าภาพพิมพ์ญี่ปุ่นก็ได้) รูปร่างหน้าตาไฟร์ฟอกซ์ที่ฮิคส์สร้างออกมาในครั้งแรกก็เลยเป็นแบบนี้




แต่ สัญลักษณ์ของไฟร์ฟอกซ์นั้น ต้องสร้างขึ้นมาเพื่อให้เกิดความประทับใจ ไม่ใช่งานศิลป์ที่เวอร์ๆแบบที่ฮิคส์ทำซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะฉะนั้น Daniel Burka จึงให้แนวคิดใหม่แล้วให้ Stephen Desroches ร่างภาพขึ้นมาคร่าวๆ(สองคนนี้เป็นเพื่อนร่วมงานที่ทำงานเดียวกับ Garrity และก็เป็นหนึ่งในทีมนี้ด้วยเหมือนกัน) หลังจากนั้นฮิคส์ก็ไปทำต่อโดยใช้โปรแกรม Fireworks MX Illustrator และ Photoshop ในการสร้างสัญลักษณ์และไอคอน




ใน เวอร์ชั่นแรกๆที่ฮิคส์ทำนั้น มีจุดที่แก้ไขนิดหน่อยคือ แก้ขนบริเวณศีรษะ หน้าของไฟร์ฟอกซ์ ขา หาง แล้วก็รูปโลก ซึ่งสัญลักษณ์ที่ฮิคส์ทำในครั้งนี้นั้นสวยงามมาก ง่ายต่อการจดจำ และไม่ได้สร้างความสับสนให้ผู้ใช้กับไอคอนของโปรแกรมอื่นๆ เพราะฉะนั้นสัญลักษณ์ตัวนี้จึงได้รับเลือกในที่สุด

ที่มา : Hollow of pkbasic

Credit : Fevergame
Posted By PopKoRn YB78

พระเจ้าเหามีตัวตนจริงหรือ?

คำว่า 'พระเจ้าเหา' นี้ใช้อ้างอิงกันบ่อยมากในกรณีที่ผู้พูดต้องการเน้นว่าเรื่องที่ตนพูดเป็นเรื่องโบราณเต็มที แต่มักไม่ใคร่มีใครทราบว่าพระเจ้าเหานั้นมีองค์หรือเรื่องราวปรากฏอยู่จริงหรือไม่?

ซึ่งคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ 'ซองคำถาม' ได้ค้นพบเรื่องราวของพระเจ้าเหาจากหนังสือของอาจารย์สมบัติ พลายน้อย ซึ่งกล่าวไว้ว่า หลวงจีนเย็นเกียรติ (ลิขิต ฮุนตระกูล) เป็นผู้สืบสวนค้นคว้าพระราชประวัติของพระเจ้าเหาขึ้นมาได้

โดยเขียนเล่าไว้ในหนังสือประวัติการสัมพันธ์ระหว่างชาติไทยกับชาติจีน
ฉบับพิมพ์เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๙ ความว่า

“พระเจ้าเสียวเหา หรือพระเจ้าเหา (น้อย) เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าหว่างตี้ราชวงศ์ที่ ๑ ปฐมกษัตริย์ของจีนครองราชย์ ๒๑๕๔ ถึง ๒๐๕๕ ปีก่อนพ.ศ. อยู่ในราชสมบัติ ๑๐๐ ปี

มีพระอัครชายา ๕ องค์ พระนางชีเลงสีพระมารดาพระเจ้าเหา (น้อย) เป็นพระอัครชายาที่ ๑ มีพระโอรส ๓ องค์ คือ
๑. ชังฮี
๒. พระเจ้าเหา (น้อย)
๓. หล่งเมี้ยว

พระ เจ้าเสียวเหาหรือพระเจ้าเหา (น้อย) เป็นพระราชโอรสอันดับที่ ๒ พระองค์ขึ้นครองราชย์สมบัติเมื่อปีมะโรง ๒๐๕๔ ปีก่อนพ.ศ. และสวรรคตเมื่อปีเถาะ ๑๙๗๑ ปีก่อนพ.ศ. พระองค์เป็นต้นตระกูลไทย ในบันทึกประวัติศาสตร์จีนมีชัดแจ้งอยู่ว่าเชื้อพระวงศ์พระเจ้าเหานี้ได้รับ พระราชทานตราตั้งราชตระกูล 'ไทยไทย' เป็นฐานันดรศักดิ์ประจำตระกูล ฉะนั้นพระเจ้าเหาจึงนับว่าทรงเป็นต้นตระกูลไทย...”




“ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี”

.*. รูปหัวใจ ใครคิดค้นขึ้นมานะ .*.



.*. รูปหัวใจ ใครคิดค้นขึ้นมานะ อยากรู้ป่าวครับ .*.

สังเกตไหมว่า ที่จริงรูปหัวใจที่เราใช้ ๆ กันอยู่เนี่ย หน้าตามันไม่ค่อยเหมือนหัวใจจริง ๆ ของคนเราสักเท่าไหลแต่ก็ไม่แปลกหลอกที่ของจริงกับสัญลักษณ์จะดุเหมือนแฝดคน ละฝา เพราะคนที่สร้างสัญลักษณ์นี้ขึ้นมา เป็นกลุ่มแรกเชื่อกันว่าเป็นพวกนายพรานยุโรป ตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์โน่น หรือเผลอๆ อาจจะเป็นคนรุ่นสุดท้ายในยุคน้ำแข็งเลยก็ได้ ( ยังอุตส่าห์ตกทอดมาถึงสมัยนี้ได้ มันอึดจริงๆ ครับพี่น้อง!!! )

มีหลักฐานการค้นพบรูปหัวใจบนผนังถ้ำอายุ 10,000 ปีก่อนคริสตกาล ในประเทศสเปน และเป็นสัญลักษณ์ที่ถูกยอมรับ ว่ามีความคิดสร้างสรรค์ สูงมากสำหรับมนุษย์เมื่อ 10,000 ปีก่อน เพราะเป็นสัญลักษณ์ที่มีทั้งส่วนเว้าและส่วยโค้ง ซึ่งคนในยุคนั้นต้องสู้ชีวิตกันสาหัสมาก คงไม่ค่อยว่างมาดีไซน์อะไรกันมากมายได้ขนาดนี้ นี่ต้องเรียกว่า ปาฏิหาริย์สรรค์สร้างสุดฤทธิ์แล้ว

เหตุผลที่นายพรานรุ่นพระเจ้าเหาสร้างสัญลักษณ์หัวใจขึ้นก็เพื่อใช้เป็น สัญลักษณ์ ของอวัยวะที่ตรึงชีวิตให้คงอยู่ จากนั้นรูปหัวใจก็ตกทอดมาเรื่อย ๆ เป็นสมบัติแบกะดิน แล้วแต่ใครจะเอาไปใช้ แต่ส่วนใหญ่ก็จะใช้ในทางศาสนา เพื่อสื่อถึงชีวิตและรูปร่างของสัญลักษณ์หัวใจก็มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างตาม กาลเวลาจนมีสภาพอย่างที่เราเห็นนี่ล่ะ

พอมาถึงยุคกลาง สัญลักษณ์รูปหัวใจเริ่มมีความหมายเฉพาะมากขึ้น แต่ก็ยังมีหลายความหมายแล้วแต่ว่าจะอยู่ที่ไหน เช่น ถ้าอยู่ที่ประเทศหนึ่ง รูปหัวใจจะหมายถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่พอไปอีกประเทศหนึ่งกลับหมายถึง การไปด้วยกัน หรือในบางพื้นที่หัวใจก็มีความหมายที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ อย่างเช่น หมายถึงไฟ หรือหมายถึงการบินก็ยังมี

ในประเทศสวีเดน หัวใจหมายถึงห้องน้ำ ที่ใช้ร่วมกันระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย ชาวกรีกใช้สัญลักษณ์รูปหัวใจเป็นใบไม่ประดับมาลัยมงกุฎ ของเจ้าไดโดซุส แต่ต่อมาเปลี่ยนมาประดับมงกุฎให้กามเทพแทน นั่นแสดงว่ารูปหัวใจเริ่มมีความหมายสื่อถึงความรักตั้งแต่สมัยนี้แล้ว

มีคนให้ความเห็นว่า สัญลักษณ์รูปหัวใจมีลักษณะคล้ายสะโพก ซึ่งก็มีเสียงขานรับในทำนองเห็นด้วยมากมาย เพราะเชื่อกันว่าสำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีวิวัฒนาการสูงอย่างลิงหรือคน สะโพกเป็นส่วนที่กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ จึงเป็นไปได้ว่า สะโพกนี้เองที่เป็นจุดกำเนิด หรือที่มาของรูปหัวใจในปัจจุบัน

เคล็ดลับเสริมดวง

กระเป๋าสตางค์

เปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ใบใหม่เสมอในวันขึ้นปีใหม่
ใส่เงินจำนวน 900 หรือ 9,000 ในกระเป๋าไว้สักวันหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ
เพื่อเอาเคล็ดเอาฤกษ์เพื่อให้กระเป๋าใบนั้นเป็นกระเป๋าที่ดี
เรียกเงินเรียกทอง เข้ากระเป๋าได้มาก มีเก็บมากกว่าจะต้องควักออกไป
และทุกครั้งที่รับเงินสดเข้ามา
ควรนำเงินมาใส่กระเป๋าเอาไว้ก่อน
บางคนอาจจะยังคงปล่อยเงินไว้ในซองแล้วก็นำไปฝากธนาคาร
ซึ่งถ้าจะเอาเคล็ดเรียกโชคกันจริงๆ ตามความเชื่อของคนเฒ่าคนแก่
ก็ควรเอาเงินเก็บใส่กระเป๋าสตางค์ไว้ก่อน


พระสิวลี

หาโอกาสไปกราบไหว้พระสีวลีที่วัดใดก็ได้ในท้องที่ที่อาศัย
พระสีวลีเป็นเอตทัคคาโชคลาภ
ท่านเป็น 1 ใน 80 ศิษย์เอกของพระพุทธเจ้า
เมื่อไปกราบไหว้ขอพรจากพระสีวลี ชีวิตจะมีโชคดีขึ้น
และมีความราบรื่นก้าวหน้า มีเงินมีทองเพิ่มพูนมากขึ้น


ยักษ์และราหู

ไม่ควรมีรูปภาพ หรือรูปปั้นยักษ์และราหูประดับตกแต่งในบ้าน
เพราะจะทำให้คนในบ้านทะเลาะเบาะแว้งกัน
มีแต่เรื่องร้อนๆ ขาดโชคขาดลาภ


พลังของวิญญาณ

อย่านำโปสเตอร์ , รูปภาพ ,หนังผี , คนบาดเจ็บ
จากนิตยสารที่มีแต่ความน่ากลัว
มาติดผนังบ้าน หรือรูปคนตายมาติดประดับไว้ที่ห้อง
( ยกเว้นภาพถ่ายบุคคลในครอบครัวที่เสียชีวิตไปแล้ว)
หลีกเลี่ยงภาพน่ากลัว หรือดูดุร้าย เพราะล้วนเป็นแหล่ง
เรียกคลื่นพลังงานที่ไม่เป็นมงคล
จะทำให้โชคลาภหดหาย คนในบ้านจะมีแต่เรื่องร้ายๆ เกิดขึ้น เกิดอุบัติเหตุ
การนำภาพมาติดผนังประดับบ้านควรเลือกภาพที่ดูสวยงาม


เตียงนอน

อย่าตั้งเตียงนอนโดยเอาหัวเตียงหันไปชนกับผนังห้องน้ำ
เพราะจะทำให้เสื่อมโชคอับโชค
อย่าตั้งเตียงนอนโดยหันปลายเตียงเล็งตรงกับประตูทางเข้าพอดี
เพราะจะทำให้ฝันร้ายและอับโชค


สุนัข แมวจรจัด

แบ่งอาหารและน้ำให้แก่สุนัข หรือแมวจรจัดที่หิวโหยบ้าง
ในวันฝนตกก็อนุญาตให้สัตว์จรจัดเข้ามาหลบฝนในชายคาบ้าน
การทำบุญทำทานกับสัตว์นั้นให้อานิสงส์ผลบุญแก่ตัวเราได้อย่างมหาศาล


ห้องครัว

ดูแลปัดกวาดเช็ดถูและจัดข้าวของเครื่องใช้ในครัวให้สะอาดอยู่เสมอ
อย่าปล่อยให้ครัวสกปรก เพราะครัวเป็นขุมพลังของบ้าน
บ้านที่ปล่อยให้ครัวสกปรกจะอับโชค เงินทองหามาได้ก็ต้องจ่ายออกไป
เจริญรุ่งเรืองช้านัก


ผ้าเช็ดหน้า

อย่าให้ของขวัญคนรัก หรือเพื่อนสนิทเป็นผ้าเช็ดหน้า
เพราะถือว่าเป็นลางไม่ดี
ถือเป็นของขวัญอับโชค มอบให้กันแล้วจะมีเรื่องต้องพลัดพรากจากกัน
หรือมีเรื่องต้องเมินหมางห่างเหินกันไป


กระจก

ขัดถูกระจกในบ้านให้สะอาดใสอยู่เสมอ
ถ้าปล่อยให้กระจกขุ่นมัวเป็นประจำ
ดวงชะตาของคนในบ้านจะหม่นหมองทำอะไรไม่ขึ้น


วันบริสุทธิ์

วันที่ควรงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์กับคู่รัก คือ
วันโกน วันพระ วันเกิด และวันเข้าพรรษา
ตามธรรมเนียมโบราณนิยมปฏิบัติกันเช่นนี้
เพื่อให้เทวดาคุ้มครองรักษาตลอดไป


เหรียญนำโชค

เมื่อเจอเงินตกอยู่ตามทางเดิน
แม้จะเป็นเพียงเหรียญบาทก็ให้เก็บเอาไว้
ให้ถือเสมือนเป็นเหรียญนำโชค การเดินผ่านเลยไป
เพราะเห็นว่าเป็นเพียงเหรียญบาท เหรียญสลึงนั้น
ถือเป็นการดูถูกเงินทอง ไม่เห็นคุณค่าของเงิน
คนเฒ่าคนแก่เชื่อกันว่ามันจะทำให้คุณอับโชคทั้งวัน
หรือในช่วง 3 -7 วัน


ทำบุญโลงศพ

ไปที่มูลนิธิใกล้บ้าน ทำบุญบริจาคเงิน ร่วมกันซื้อโลงศพ
ให้ศพอนาถาที่ไร้ญาติ การทำบุญโลงศพ
จะช่วยเสริมดวงชะตาให้กล้าแข็ง เหมาะสำหรับช่วงดวงอ่อน
และมีทุกข์มีเคราะห์


พระพรหมศักดิ์สิทธิ์

หาโอกาสไปกราบไหว้พระพรหมสักครั้ง ถ้าอยู่ที่กรุงเทพ
ก็ไปไหว้ที่หัวมุมสี่แยกราชประสงค์
โรงแรมเอราวัณก็ได้ หรือที่ศาลพระพรหมแห่งใดก็ได้ทั้งนั้น
พระพรหมเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวขวัญกันมากว่า
บนบานอธิษฐานขออะไรมักได้ดังปรารถนา
ด้วยว่าท่านเป็นเทพแห่งความสำเร็จนั่นเอง


หิ้งพระ

หิ้งพระ หรือหิ้งบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเทพต่างๆ
หรือ ร. 5, ในหลวงของเรา
เมื่อตั้งหิ้งบูชาแล้วจะต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
หมั่นเปลี่ยนดอกไม้ พวงมาลัย
ถวายน้ำสะอาด ถ้าปล่อยให้หิ้งสกปรก มีแต่ฝุ่นจับเต็มไปหมด
บ้านนั้นจะมีแต่ความเสื่อมถอย โชคลาภหดหาย
ยากที่จะเจริญรุ่งเรือง


ไข่ และ ส้ม

ในบ้านเรือนควรมีไข่ และมีส้มไว้ในตะกร้าเสมออย่าให้ขาด
เพื่อเรียกความสมบูรณ์พูนสุขเข้าบ้าน
ทำให้ชีวิตอยู่ดีมีสุขตลอดไป
ไข่และส้มเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความโชคดี


แหวนเสริมดวง

เลือกสวมแหวนที่ถูกโฉลกกับเดือนเกิด
หรือวันเกิดเพื่อเสริมโชคดีให้ชีวิต

ถ้าอยากเสริมดวงการเงิน - ควรสวมแหวนทอง แหวนเงิน
แหวนหยกและแหวนหัวพลอยสีที่ถูโฉลก

ถ้าอยากเสริมดวงความรัก - ให้สวมแหวนรูปหัวใจ รูปดาว
เลือกแหวนเพชรหรือเทอร์ควอยส์ก็ได้

ส่วนแหวนลูกปัดและหินสีต่างๆ - จะช่วยเสริมดวงเสน่ห์


การสวมแหวน

สวมแหวนนิ้วกลางขวา - เสริมดวงการเงินและบารมี

สวมแหวนนิ้วนาง นิ้วก้อย - เสริมเสน่ห์ และเสริมดวงความรัก




ข้อมูลเพิ่มเติม ใส่แหวนอย่างไร ให้ถูกต้องตามโหราศาสตร์

ที่มาของคำว่า"เจ้าชู้ประตูดิน"

คำว่า เจ้าชู้ประตูดิน ใช้กันมานานแล้ว ที่ต้องเป็นคำต่อว่าประตูดิน
ก็เพราะประตูดินในที่นี้ คือประตูศรีสุดาวงศ์ในพระบรมมหาราชวัง
เป็นประตูทางเข้าออกเขตชั้นใน ซึ่งเป็นที่อยู่ของบรรดาหญิงชาววัง
ซึ่งผู้ชายเข้าไม่ได้ หนุ่มๆที่อยากดูสาวชาววังก็
ต้องรอตอนสาวชาววังออกมาจับจ่ายซื้อหาข้าวของนอกประตูถึงจะได้เห็น

แต่จะไปเกี้ยวแบบเดินไปขอเบอร์แบบเดี๋ยวนี้ไม่ได้นะ
เพราะเค้ามีคนมาเฝ้าและที่หน้าประตูก็มีโขลน หรือตำรวจวังด้วย
สุ่มสี่สุ่มห้าเดินทะเล่อทะล่าเข้าไปจีบ เดี๋ยวเป็นไปโดนดี

คราวนี้พอสาวชาววังออกมา
หนุ่มๆก็จะไปคอยดักดูอยู่แถวหน้าประตูดินที่ว่านี่แหละ
หวังจะทำความรู้จักด้วย จึงเป็นที่มาของคำว่าเจ้าชู้ประตูดินนั่นเอง
แถมบางครั้ง มีสร้อยคำต่อท้ายด้วยว่า
"เจ้าชู้ประตูดิน หมูหมาเกี้ยวสิ้นไม่เลือกหน้า"

ที่มา รายการคุณพระช่วย

อย่าเปิดเครื่องปรับอากาศ ทันทีที่คุณขึ้นรถ!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณจอดรถตากแดดไว้
ให้เปิดหน้าต่างหลังจากขึ้นรถ และอย่าเปิดแอร์ทันที
ตามผลการวิจัย
แผงคอนโซล เบาะที่นั่ง และน้ำหอมปรับอากาศ
จะสร้างสารเบนซีน ที่เป็นสารก่อมะเร็งขึ้น
(อย่างที่คุณได้กลิ่่นเหมือนพลาสติคจาง ๆ ในรถ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "รถใหม่" : ผู้แปล)


นอกจากเป็นสาเหตุให้เป็นมะเร็งแล้ว
สารดังกล่าวยังเป็นพิษต่อกระดูก
ทำให้เกิดโรคโลหิตจาง และลดจำนวนเม็ดเลือดขาว
ซึ่งในระยะยาวอาจทำให้เป็นโรคลูคีเมีย
และอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์มารดาได้


ระดับของสารเบนซีนที่ยอมรับได้ในอาคาร / ในรถ
คือ 50 มิลลิกรัม ต่อ ตารางฟุต
แต่ระดับของสารเบนซีนในรถที่จอดอยู่ในร่ม
มีค่าอยู่ที่ 400 - 800 มิลลิกรัม


หากรถจอดอยู่กลางแจ้งที่มีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 60 องศาฟาร์เรนไฮท์
(15.5 องศาเซลเซียส "เมืองไทยจอดในร่มอุณหภูมิก็สูงเกินแล้ว" : ผู้แปล)
ระดับของสารเบนซีนจะสูงขึ้นถึง 2000 -4000 มิลลิกรัม
คือสูงกว่าระดับที่ยอมรับได้ถึง 40 เท่า
คนที่อยู่ในรถจะหายใจเอาสารพิษที่สูงเกินมาตรฐาน
ดังกล่าวเข้าไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


ดังนั้นจึงขอแนะนำว่าให้คุณเปิดประตู หน้าต่างรถ
ไว้สักระยะเพื่อให้อากาศที่อยู่ในตัวรถออกมาก่อนจะเข้าไปนั่ง
สารพิษที่ร่างกายคุณไม่สามารถขับออกได้โดยง่าย
ซึ่งส่งผลร้ายต่อ ตับ ไต ไส้ พุง ("สองอันหลังเพิ่มเอง" : ผู้แปล)
จะได้ลดปริมาณลง


ที่มา : FW Mail

ใส่แหวนอย่างไร ให้ถูกต้องตามโหราศาสตร์



เพราะ ชายหญิงมีธาตุที่แตกต่างกันจึงมีวิธีการที่แตกต่างกัน
จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แหวนวงน้อยนี้
สามารถคุ้มครองผู้สวมใส่ได้เช่นกัน

เรื่องนี้เป็นวัฒนธรรมที่มีมาแต่โบราณกาล
อย่างที่ขุดได้ในกรุสมัยโบราณ
ลองไปดูที่พิพิทธภัณฑ์เจ้าสามพระยาที่จังหวัดอยุธยา
ก็จะมีแหวนหยกแหวนทองคำแท้และรัตนชาติต่างๆ รวมอยู่ด้วย
สิ่งนี้เป็นหลักฐานพยานที่ดีอย่างยิ่ง
ลองดูรายละเอียดต่อไปนี้



ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

ท่านที่เกิดวันอาทิตย์ ผู้หญิงให้สวมแหวนมือข้างซ้าย
ส่วนผู้ชายสวมแหวนมือข้างขวา
ตัวเรือนควรทำจากทองแท้ เงินแท้หรือหยก
ถึงจะส่งพลังดี ๆ ออกมาคุ้มครอง
ในการสวมแหวน หากเป็นผู้ชายให้เน้นไปที่นิ้วกลางและนิ้วชี้
อันหมายถึงพลังอำนาจการปกครองและวาสนาบารมี
แต่หากจะสวมแหวนที่นิ้วหัวแม่มือก็ขอให้ดูตัวเองก่อน
เพราะการสวมที่หัวแม่มือนั้น ต้องเป็นผู้มีเงินทองแบบหลงจู๊อยู่แล้ว
ไม่เช่นนั้นจะเกินวาสนาตน
ส่วนผู้หญิงก็ให้สวมมือซ้ายนิ้วนางหรือนิ้วกลาง
ก็จะเสริมพลังของตัวเองให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง
นอกจากนี้ในการสวมแหวนหลายวงในนิ้วเดียวกันนั้น ไม่ควรทำ
จะทำให้เกิดความผิดพลาดในเรื่องของความรักได้ง่าย ๆ


ผู้ที่เกิดวันจันทร์

ท่าน ที่เกิดวันจันทร์ ผู้หญิงให้สวมที่นิ้วมือข้างซ้าย
ส่วนผู้ชายให้สวมมือข้างขวา
ตัวเรือนควรทำด้วยทองคำ เงิน นาค โลหะผสม หรือหินสีต่างๆก็ได้
แต่ควรเป็นแหวนที่วงค่อนข้างผอม บาง หัวแหวนเล็กๆ
จึงจะสอดคล้องกับผู้ที่เกิดในวันจันทร์
ผู้ชายควรสวมแหวนเน้นไปที่นิ้วชี้ นิ้วนาง นิ้วกลาง
ก็จะเสริมดวงและคุ้มครอง
ห้ามสวมแหวนนิ้วก้อยและนิ้วหัวแม่มือเด็ดขาด
ส่วนผู้หญิงก็ให้สวมที่นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย
ก็จะเกิดความเจริญรุ่งเรือง
สร้างพลังแห่งเมตตามหานิยมแก่เจ้าของ
ไม่ควรสวมแหวนที่นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือ
สามารถสวมแหวนซ้อนกันสองวงได้
แต่ถ้าเป็นสามวงซ้อนในนิ้วเดียวกันไม่ควรอย่างยิ่ง
จะทำให้เกิดความผิดพลาด ในเรื่องของความรักได้ง่าย ๆ


ผู้ที่เกิดวันอังคาร

ท่าน ที่เกิดวันอังคาร ผู้หญิงให้สวมที่นิ้วมือข้างซ้าย
ส่วนผู้ชายให้สวมนิ้วมือข้างขวา
ตัวเรือนทำด้วยอะไรก็ได้ แต่ไม่ควรเป็นของที่แตกหักได้
ตัวแหวนควรค่อนข้างหนาสักหน่อยจึงจะดี
หัวแหวนควรใหญ่เช่นกัน ก็จะสามารถเหนี่ยวนำความเจริญรุ่งเรืองได้
ผู้ชายควรสวมไว้ที่นิ้วกลางนิ้วชี้ ก็จะคุ้มครองผู้สวมใส่
ไม่ควรสวมแหวนนิ้วนางหรือนิ้วก้อยจะทำให้ไม่มีพลัง
ส่วนผู้หญิงควรสวมแหวนที่นิ้วกลางนิ้วชี้และนิ้วนางเท่านั้น
ก็จะส่งพลังคุ้มครองในทุกเรื่อง
ไม่ควรสวมแหวนที่นิ้วก้อย จะทำให้เสียพลังที่เข้มแข็ง
ที่สำคัญการสวมแหวนซ้อนกันหลายวงในนิ้วเดียวกันสามารถทำได้
ไม่ได้ทำให้เกิดการสูญเสียหรือมีผลใด ๆ ในเรื่องของความรัก


ผู้ที่เกิดวันพุธ

ท่าน ที่เกิดวันพุธ ผู้หญิงให้สวมที่นิ้วมือข้างซ้าย
ส่วนผู้ชายให้สวมที่นิ้วมือข้างขวา
ตัวเรือนควรทำด้วยวัสดุธรรมชาติอย่าง ทอง เงินหรือหยก
ตัวแหวนควรพอดีกับนิ้ว ไม่ควรหนาหรือบางจนเกินไป
หัวแหวนควรทำด้วยรัตนชาติแท้ หรือทำเป็นรูปเหลี่ยมๆ
จะสามารถเพิ่มพลังของความเจริญรุ่งเรืองได้
ผู้ชายควรสวมแหวนไว้ที่นิ้วชี้ นิ้วกลางหรือนิ้วนางก็ได้
หรือจะใส่ที่นิ้วหัวแม่มือก็ได้เช่นกัน
ส่วนผู้หญิงควรสวมแหวนที่นิ้วชี้ นิ้วกลางหรือนิ้วนาง
ก็จะสามารถคุ้มครองได้ในทุกๆ เรื่อง
นอกจากนี้ยังสามารถสวมแหวนหลายวง หลายนิ้วพร้อมกันได้
หรือจะซ้อนในนิ้วเดียวกันหลายวงก็ได้
ไม่ได้ทำให้เกิดผลเสียในเรื่องของความรักอย่างแน่นอน


ผู้ที่เกิดวันพฤหัส

ท่าน ที่เกิดวันพฤหัส ผู้หญิงให้สวมที่นิ้วมือข้างซ้าย
ส่วนผู้ชายสวมที่นิ้วมือข้างขวา
ตัวเรือนทำด้วยวัสดุธรรมชาติอย่าง ทองคำ เงินหรือทองคำขาว
ตัวแหวนควรพอดีกับนิ้ว หรือค่อนข้างใหญ่หน่อยก็ยังดี
หัวแหวนควรทำด้วยรัตนชาติแท้ แต่ควรจะมีประกายส่องสว่าง
ถึงจะสามารถเพิ่มพลังของความเจริญรุ่งเรืองได้
ผู้ชายควรสวมแหวนที่นิ้วชี้ นิ้วกลางหรือนิ้วนางก็ได้
หรือจะใส่ที่นิ้วหัวแม่มือก็ได้เช่นกัน แต่ไม่ควรสวมแหวนนิ้วก้อย
ส่วนผู้หญิงควรสวมแหวนที่นิ้วชี้ นิ้วกลางหรือนิ้วนาง
ก็จะสามารถคุ้มครองได้ในทุกๆเรื่อง
นอกจากนี้ไม่ควรสวมแหวนพร้อมกันหลายวง
จะทำให้เสียพลังในเรื่องของความรัก
เปรียบเหมือนการมีรักซ้อนซ่อนรัก


ผู้ที่เกิดวันศุกร์

ท่าน ที่เกิดวันศุกร์ ผู้หญิงให้สวมที่นิ้วมือข้างซ้าย
ส่วนผู้ชายสวมที่นิ้วมือขวา
ตัวเรือนควรทำด้วยวัสดุธรรมชาติอย่าง ทองคำ เงินหรือทำจากหิน
ตัวแหวนควรมีลักษณะเป็นแฟชั่นหยักๆ หรือเป็นคลื่น
หัวแหวนควรมีสีสัน หรือเป็นแหวนหลายหัวก็ได้
จะสามารถเพิ่มพลังของความเจริญรุ่งเรืองได้
ผู้ชายควรสวมแหวนที่นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง หรือนิ้วก้อย
หรือจะใส่ที่นิ้วหัวแม่มือก็ได้เช่นกัน
ส่วนผู้หญิงสามารถสวมแหวนนิ้วไหนก็ได้ในทุกนิ้ว
จะสามารถคุ้มครองได้ในทุกๆ เรื่อง
แต่การสวมแหวนซ้อนกันมากจนเกินไป
จะทำให้เสียพลังในเรื่องของความรัก
เปรียบเหมือนการมีรักซ้อนซ่อนรัก
หรือจะกลายเป็นคนที่รักอิสระจนเกินกว่าจะควบคุมได้


ผู้ที่เกิดวันเสาร์

ท่าน ที่เกิดวันเสาร์ ผู้หญิงให้สวมที่นิ้วมือข้างซ้าย
ส่วนผู้ชายสวมที่นิ้วมือขวา
ตัวเรือนควรทำด้วยวัสดุธรรมชาติอย่าง ทองคำ เงินหรือหิน
ตัวแหวนควรมีความพอดีกับนิ้ว หรือค่อนข้างใหญ่หน่อยก็ยังดี
หัวแหวนควรทำด้วยรัตนชาติแท้ แต่ควรจะมีสีค่อนข้างเข้ม
จะสามารถเพิ่มพลังของความเจริญรุ่งเรืองได้
ผู้ชายควรสวมแหวนที่นิ้วชี้ นิ้วกลาง หรือจะใส่ที่นิ้วหัวแม่มือก็ได้เช่นกัน
แต่ไม่ควรสวมแหวนที่นิ้วก้อยหรือนิ้วนาง
จะเสียพลังในการคุ้มครอง
ส่วนผู้หญิง ควรสวมแหวนที่นิ้วชี้ นิ้วกลางหรือนิ้วนางก็จะสามารถคุ้มครองได้ในทุกๆเรื่อง
นอกจากนี้ไม่ควรสวมแหวนพร้อมกันหลายวง
จะทำให้เสียพลังในเรื่องของความรัก
เปรียบเหมือนการมีรักซ้อนซ่อนรัก




ขอบคุณที่มา : สาระแน
ภาพประกอบ : อินเตอร์เน็ต